Checklist: 1st – Jazz / 8th – London / 11th – Smile / 18th – Facepalm / 21th – Account
Paring: Bard Bowman x Thranduil (Barduil)
Genre: AU / Out of main plot / Romance (?)
วูบมาแต่งเพราะชอบหัวข้อ Novelber ปีนี้ค่ะ แต่จะมีต่อไหมไม่แน่ใจนะคะ มาแบบลักปิดลักเปิด 😂 แต่ใจจริงก็อยากแต่งต่อนะคะ 😭😭
=====
ลอนดอนไม่ได้เป็นเมืองที่น่าอยู่ในความคิดของบาร์ด
จริงอยู่ที่ลอนดอนมีความสวยในรูปแบบของตัวเอง เป็นที่ตั้งของพระราชวังบักกิงแฮม หอนาฬิกาบิกเบนลือชื่อ มีชิงช้าสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับของโลก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้บาร์ดอยากอยู่ในลอนดอนมากเท่าไร
ไม่นับเรื่องอากาศที่สุดแสนจะแปรปรวน เดี๋ยวฝนตกเดี๋ยวแดดออก บางทีก็มีเมฆหมอกหนาทึบทำเอาอึมครึมไปตลอดวัน สิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือเรื่องค่าครองชีพที่แพงหูฉี่เมื่อเทียบกับเมืองข้างเคียงอย่าง บริกตัน หรือ เคมบริดจ์
แต่ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละ ห่างไกลเมืองหลวงออกไป โอกาสดีๆสำหรับหน้าที่การงานมันก็น้อยตามไปด้วย
ตอนนี้บาร์ดเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว มีภาระต้องดูแลปากท้องอีกสามชีวิตหลังจากภรรยาคู่ชีวิตได้เสียชีวิตไป เธอจากไปอย่างน่าเศร้าหลังให้กำเนิดทิลด้าน้อยที่แสนน่ารักได้ไม่วัน
สิ่งที่บาร์ดต้องการมากที่สุด คือ การที่ลูกๆของเขาได้กินอิ่ม นอนอุ่น มีการศึกษาที่ดี และมีอนาคตที่สดใส
พูดง่ายแต่ทำได้ยาก!
เบอินและซิกริดอายุใกล้จะเข้าเรียนวิทยาลัยได้แล้ว ส่วนทิลด้ายังเรียนประถมอยู่
เด็กๆทั้งสามคือเหตุผลที่ว่าทำไมบาร์ดยังคงทนอยู่ในลอนดอนแม้จะไม่ชอบ
ลูกคือแรงบันดาลใจให้บาร์ดลุกจากเตียงไปทำงานในทุกๆเช้า รอยยิ้มของเบอินกับซิกริดและเสียงหัวเราะสดใสของทิลด้าสร้างกำลังใจให้บาร์ดทุกครั้งที่เขาท้อแท้
บาร์ดวางแผนเปิดบัญชีธนาคารแยกไว้อีกบัญชีหนึ่งเพื่อเตรียมไว้เป็นทุนการศึกษาของเด็กๆโดยเฉพาะ เขาจะทำบัญชีรายรับรายจ่ายและใช้เงินอย่างระมัดระวังที่สุดในแต่ละเดือนเพื่อให้มั่นใจว่าลูกๆของเขาจะมีเงินพอเพียงทั้งค่ากินอยู่และค่าเทอม
แต่วันนี้บาร์ดก็สุดจะทนและเขารู้ตัวว่าเขาต้องการอะไรสักอย่างแรงๆมาดื่มแก้เครียดหลังจากโดนหัวหน้างานอัลเฟรดตำหนิเรื่องการทำงานโดยเขาไม่มีความผิดอะไร
ชายหนุ่มนั่งบนเก้าอี้สูงติดกับเคาเตอร์บาร์เอ่ยปากสั่งสก็อตวิสกี้ด้วยสีหน้าฉุนเฉียว บาร์เทนเดอร์หน้าละอ่อนรับคำสั่งโดยไม่ปริปากถามใดๆ แก้วใสบรรจุน้ำสีอำพันถูกเลื่อนมาวางตรงหน้า บาร์ดคว้าแก้วนั้นขึ้นมาดื่มแบบไม่ลังเล
ความผิดพลาดในงานวันนี้ไม่ใช่ส่วนของเขาเลยสักนิด แต่เพราะมาสเตอร์ของบริษัทเลคทาวน์ต้องการหาใครสักคนมารับผิดชอบ และคนที่เหมาะสมจะเป็นแพะรับบาปมากที่สุดก็หนีไม่บาร์ด คนที่หัวหน้าอัลเฟรดแสนจะเกลียดขี้หน้าที่สุด
เสียงเพลงแจ๊สนุ่มๆที่บรรเลงอยู่ไม่อาจขจัดความขุ่นมัวในใจของบาร์ดไปได้เลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มยังคงยกมือสั่งเครื่องดื่มมึนเมาเพิ่มโดยไม่สนใจรับฟังความสุนทรีย์รอบด้าน
ปรกติบาร์ดไม่ได้ดื่มเหล้าดีๆราคาแพงในบาร์หรูหราแบบนี้บ่อยนัก เวลาเครียดหรือกลุ้มใจเขาจะดื่มแค่เบียร์กระป๋องราคาถูกที่ซื้อจากร้านขายของชำพลางนั่งปรับทุกข์กับเพอร์ซี่ เพื่อนบ้านวัยชราที่รู้จักกันมานาน
แต่วันนี้บาร์ดยอมสละเงินแยะขึ้นเพราะต้องการอะไรที่แรงกว่าเบียร์ช่วยย้อมใจที่กำลังโกรธเคืองให้บรรเทาลงและช่วยให้้เขาหลับสบายขึ้นในค่ำคืนนี้
แม้ว่ามันอาจจะทำให้ตอนสิ้นเดือนเดือนนี้บาร์ดต้องลำบากในการจัดการเงินเพิ่มขึ้น แต่เขาก็ยินยอม เรียกได้ว่าเป็น Guilty Pleasure นานๆครั้งสำหรับชายหนุ่ม
ระหว่างกำลังยกแก้วขึ้นกระดกเอาวิสกี้เข้าปากตัวเองนั้นบาร์ดรับรู้ได้ถึงสายตาหนึ่งที่จ้องมาจากมุมเคาเตอร์ฝั่งตรงข้าม ชายหนุ่มลดมือวางถ้วยใสลงบนเคาเตอร์ไม้โอ๊คสีเข้มพลางมองกลับไปยังคนที่กำลังส่งสายตามาทางเขา
ดวงตาสีน้ำตาลสบเข้ากับม่านตาสีฟ้าเจือเทาก่อนที่รอยยิ้มน้อยๆจะคลี่เหนือริมฝีปากสีอ่อนของเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำแข็งคู่นั้น
บาร์ดรู้สึกเหมือนลมหายใจสะดุดขาดช่วงโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าสะสวยนั้น
อีกฝ่ายไม่ใช่ผู้หญิงข้อนี้บาร์ดแน่ใจ สังเกตุดูจากเค้าโครงหน้าที่ค่อนข้างคม เรียวคิ้วเข้ม โหนกแก้มสูง กรอบหน้าชัดเจน และช่วงบ่ากว้างใต้ชุดสีเข้ม
เจ้าของดวงตาสีฟ้าเหลือบเทาคู่นั้นดูโดดเด่นมากแม้มองจากจุดที่บาร์ดนั่งอยู่ ทั้งใบหน้ากึ่งสวยกึ่งหล่อ ดูสะอาดสะอ้านเจ้าสำอางค์นิดๆ รูปร่างผึ่งผาย แถมท้ายด้วยเส้นผมยาวสลวยจรดกลางหลังที่ถูกรวบมัดไว้อย่างดี
ดูเหมือนพวกนายแบบที่หลุดออกมาจากหน้าปกนิตยสารแฟชั่นที่ซิกริดชอบไม่ผิด!
หลายครั้งที่ดวงตาของทั้งสองสบกันตลอดเวลาที่บาร์ดนั่งอยู่ที่บาร์ ซึ่งชายหนุ่มกล้าสาบานว่าเขาไม่ได้คิดไปเองแน่นอน
นาฬิกาในโทรศัพท์มือถือของบาร์ดสั่นเตือนบอกเวลาว่าตอนนี้เที่ยงคืนแล้ว นั่นหมายความว่าถึงเวลาที่เขาควรจะกลับบ้านได้แล้ว
ถึงเวลาสลายมนต์ซินเดอเรลล่าแล้วกลับสู่ความจริง!
บาร์ดกระดกวิสกี้แก้วสุดท้ายจนหมดก่อนจะวางเงินไว้บนโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปยังชายแปลกหน้าที่บาร์ดได้สบตาด้วยตลอดคืน
แต่เขาคนนั้นไม่ได้นั่งอยู่ที่เก้าอี้ของตัวเองอีกแล้ว!
เขารู้สึกวูบโหวงในใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ที่ไม่มีโอกาสแม้จะได้ทำความรู้จักกับผู้ชายแปลกหน้าคนนั้นเลย
“ถึงเวลาที่ซินเดอเรลล่าจะต้องกลับบ้านด้วยรถม้าฟักทองแล้วหรือ?”
เสียงทุ้มดังขึ้นด้านข้างโดยที่บาร์ดเองก็ไม่ทันตั้งตัว ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปพบดวงตาสีน้ำแข็ง
“คุณนั่นเอง”
ชายหนุ่มผมทองยาวคลี่ยิ้มอย่างสุภาพ “ขอโทษที่ทำคุณให้ตกใจ แต่ผมเห็นคุณกำลังจะกลับแล้ว”
“อ่อ ใช่ ผมกำลังจะกลับแล้ว เที่ยงคืนแล้วนี่” บาร์ดพูดพลางแกล้งเปิดจอโทรศัพท์ดูนาฬิกาอีกครั้งเพื่อกลบความประหม่า
ตอนที่แอบมองจากจุดที่้เขานั่งอยู่ บาร์ดก็รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้สวยแล้ว แต่อีกฝ่ายยิ่งดูงดงามเหมือนภาพวาดเวลาที่ได้มองในระยะประชิดขนาดนี้
“คุณ…ดูดีมากเลยนะ” บาร์ดลังเลที่จะเอ่ยชมออกไปแต่ก็โล่งใจที่เห็นว่าคนถูกชมยิ่งยิ้มกว้าง
“คุณเองก็ดูดีเหมือนกันนะ” คำชมกลับทำให้บาร์ดยิ่งเขินจนต้องยกมือขึ้นมาเกาท้ายทอยเพราะไม่รู้จะเอามือตัวเองไปวางไว้ตรงไหนดี
มันดูประดักประเดิดเล็กน้อยเมื่อคนที่กำลังเอ่ยปากชมเขาดูดีเสียจนบาร์ดอยากจะถอนหายใจซ้ำๆ
“ผมธรันดูอิล กรีนลีฟ ยินดีที่ได้รู้จัก” มือขาวเรียวยื่นออกมาหาพร้อมแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ
“บาร์ด โบว์แมน” บาร์ดจับมือของธรันดูอิลพลางแนะนำตัว
มือของชายหนุ่มผมทองยาวนั้นนิ่มมาก เป็นมือของคนที่ไม่ต้องเผชิญความยากลำบากแบบที่บาร์ดแน่นอน
“ดึกแล้วยังไงผมต้องขอตัวก่อนนะ ราตรีสวัสดิ์คุณกรีนลีฟ”
แม้จะไม่อยากดึงมือออกจากผิวนิ่มลื่นนั้นเลยแต่บาร์ดก็ต้องพยายามตัดใจ
“ประเดี๋ยวก่อน” ธรันดูอิลยังคงรั้งบาร์ดไว้พร้อมยื่นกระดาษเช็ดปากสีน้ำตาลให้
“นี่เบอร์โทรศัพท์ของผม เผื่อคุณจะยังอยากคุยกับผมอยู่”
บาร์ดหรี่ตามองประเมินแผ่นกระดาษบางๆในมือนั้น “คุณมั่นใจได้ยังไงว่าผมจะยังอยากคุยกับคุณต่อ”
รอยยิ้มยกขึ้นที่มุมปาก มองดูเป็นการเหยียดยิ้มประหลาดๆ แต่บาร์ดไม่อยากเก็บมาใส่ใจ “แต่ผมคิดว่าคุณยังอยากคุยกับผม”
ธรันดูอิลดูมั่นใจเต็มร้อยจนบาร์ดอดนึกระแวงไม่ได้
“คุณรู้ได้ยังไง?”
“เอาเป็นว่าผมมีญาณหยั่งรู้แล้วกัน” ดวงตาสีฟ้าเทาขยิบส่งวิ้งน้อยๆดูเหมือนปีศาจน้อยแสนซน
บาร์ดนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือไปรับเศษกระดาษใบน้อยจากธรันดูอิลมาใส่กระเป๋าเสื้อไว้ มือหนาควานหากระเป๋าเงินในกางเกงตัวเองออกมาหยิบนามบัตรที่ทำงานส่งให้
“นี่เบอร์ติดต่อผม”
“ขอบคุณนะคุณโบว์แมน” ชายหนุ่มผมทองรับนามบัตรของบาร์ดมาด้วยรอยยิ้มมาดมั่น ใบหน้าสวยนั้นโน้มเข้ามาใกล้ก่อนสัมผัสบางเบาของริมฝีปากสีอ่อนนั้นจะประทับลงบนข้างแก้มซ้ายของบาร์ด
ธรันดูอิลจากไปแล้วหลงเหลือไว้เพียงรอยไออุ่นบนแก้มของบาร์ดกับกลิ่นหอมอ่อนจางสดชื่นของโคโลญจน์ที่คนตัวสูงใช้
บาร์ดได้แค่ยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองหลายๆครั้ง
นี่เขากำลังสร้างปัญหาให้ตัวเองหรือเปล่า!?
พ่อม่ายลูกสามได้แค่เพียงรำพึงรำพันในใจตัวเองตอนที่เปิดประตูบาร์เพื่อเดินทางกลับบ้าน
To Be Continue (?)
=====
ช่วงมีสาระ
ชื่อเรื่อง Midnight Blue มีที่มาจากสีใน Color Wheel of Love ซึ่งส่วนมากจะจัดให้ความรักแบบ Ludus เป็นสีน้ำเงิน เราเลยเอามาตั้งชื่อเรื่องเสียเลย เพราะง่ายดีไม่ต้องคิดแยะค่ะ 😂
สามารถไปชมภาพวงล้อสีตามลิ้งก์ที่แนบด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ
Source: – Link–